ความแตกต่าง ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" กับ "สถิต"

ความแตกต่าง ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" กับ "สถิต"

เจ้าสัวหรือนักธุรกิจที่ต้องการความสำเร็จอย่างยั่งยืน มักจะใช้ฮวงจุ้ยทั้งสองแบบควบคู่กันไป เพราะแบบสถิตคือรากฐานที่แข็งแกร่ง ส่วนแบบพลวัตคือการปรับจูนให้เข้ากับกระแสพลังงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองไม่ว่าจะยุคไหนๆ นั่นเอง!

ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" (Static Feng Shui)


คืออะไร?

ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" ก็คือฮวงจุ้ยที่เน้นการจัดวางสิ่งของ ตำแหน่งต่างๆ ในบ้าน หรืออาคาร โดยยึดหลักการที่ "คงที่" ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือปัจจัยภายนอกมากนัก

หลักการทำงาน:

  • เน้นทิศทางหลักแบบตายตัว: เช่น ทิศเหนือเหมาะกับน้ำ ทิศใต้เหมาะกับไฟ การวางห้องน้ำไว้ทิศตะวันออกเฉียงเหนือไม่ดี หรือประตูหน้าบ้านหันไปทางทิศนี้จะดี เป็นต้น
  • การจัดวางวัตถุถาวร: เช่น การวางน้ำพุไว้หน้าบ้าน การปลูกต้นไม้ใหญ่ตามหลักชัยภูมิ (สี่สัตว์เทพ) การกำหนดตำแหน่งห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ตามหลักเบญจธาตุ (ธาตุทั้งห้า)
  • แก้ไขปัญหาตามจุดที่มองเห็น: ถ้าเห็นว่าตรงไหนมีพลังงานเสียก็แก้ไขจุดนั้น เช่น วางกระจกแปดทิศ, แขวนระฆังลม, หรือใช้สีตามธาตุ
  • เหมาะกับการดูชัยภูมิภายนอก: การมองหาภูเขา แม่น้ำ ถนนหนทางที่มาส่งเสริมพลังงานให้กับที่ดินหรืออาคาร

ข้อดี:

  • เข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก: เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือคนที่ต้องการปรับฮวงจุ้ยแบบพื้นฐานทั่วไป
  • ให้ผลในระดับหนึ่ง: ช่วยปรับสมดุลพลังงานพื้นฐาน ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น หรือมีโชคลาภเล็กๆ น้อยๆ

ข้อจำกัด:

  • ไม่ครอบคลุมปัจจัย "กาลเวลา": เป็นจุดอ่อนสำคัญเลย เพราะพลังงานของโลกและจักรวาลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฮวงจุ้ยแบบสถิตไม่ได้นำเรื่อง "ยุค" (อวิ๋น) เข้ามาคำนวณ ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานได้
  • ผลลัพธ์ไม่แม่นยำและไม่ยั่งยืนเท่า: สิ่งที่เคยดีในยุคหนึ่ง อาจจะกลายเป็นเฉยๆ หรือไม่ดีไปเลยในอีกยุคหนึ่งได้ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่คงทน หรือไม่ปังเท่าที่ควร

ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" (Dynamic Feng Shui) หรือ "ซานหยวนปุ๊ป้าย"


คืออะไร?

ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ซานหยวนปุ๊ป้าย" หรือ "ฮวงจุ้ยดาวเหิน" (Flying Stars Feng Shui) คือฮวงจุ้ยที่เน้นการคำนวณและปรับเปลี่ยนไปตาม "กาลเวลา" (ยุค) และ "ทิศทาง" ที่แม่นยำละเอียดอ่อนมากๆ

หลักการทำงาน:

  • พลังงานเปลี่ยนแปลงตาม "ยุค" (อวิ๋น): นี่คือหัวใจสำคัญ! โลกเรามีวัฏจักรพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปทุกๆ 20 ปี เรียกว่า 1 ยุค (เช่น ตอนนี้คือยุค 9) พลังงานของดาวต่างๆ ที่โคจรอยู่บนฟ้าจะส่งผลกระทบต่อพื้นผิวโลกในแต่ละทิศทางแตกต่างกันไปตามยุค
  • ใช้ "ดาวเหิน" คำนวณพลังงานที่เคลื่อนที่: มีดาว 9 ดวง (คล้ายกับดาวในระบบสุริยะของฮวงจุ้ย) แต่ละดวงมีพลังงานเฉพาะตัว และจะ "เหิน" หรือเคลื่อนที่ไปตามช่องต่างๆ ของอาคารในแต่ละยุค แต่ละปี แต่ละเดือน หรือแม้แต่แต่ละวัน ทำให้แต่ละพื้นที่ในบ้านมีพลังงานดี-ร้ายที่ไม่เหมือนกัน และเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
  • เน้น "องศา" และ "ทิศทางที่ละเอียดอ่อน": การคำนวณแม่นยำถึงขั้นองศาของประตู หน้าต่าง หรือแม้แต่หัวเตียง เพื่อจับพลังงานที่ดีที่สุดเข้ามา
  • ปรับแก้ตาม "วัฏจักรพลังงาน": เมื่อรู้ว่าพลังงานในแต่ละพื้นที่ของบ้านเป็นอย่างไร ก็สามารถกระตุ้นพลังงานดีๆ หรือสลายพลังงานไม่ดีได้อย่างตรงจุด โดยคำนึงถึงช่วงเวลาที่พลังงานนั้นๆ รุ่งเรืองหรือถดถอย

ข้อดี:

  • แม่นยำและเจาะลึกที่สุด: ให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะคำนวณจากพลังงานที่แท้จริงและเปลี่ยนแปลงไป
  • แก้ปัญหาได้ตรงจุดและเห็นผลจริง: เมื่อรู้ว่าปัญหาเกิดจากดาวดวงไหนในยุคไหน ก็สามารถแก้ไขได้ตรงเป้า ทำให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว
  • ส่งเสริมโชคลาภและความมั่งคั่งแบบยั่งยืน: หากใช้ได้ถูกต้อง จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรับทรัพย์ รับโชค และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยาวนาน

ข้อจำกัด:

  • ซับซ้อนและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ: การคำนวณต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์สูง ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้
  • ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา: อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการจัดวางบางอย่างเมื่อเปลี่ยนยุค หรือเมื่อพลังงานของปีนั้นๆ เปลี่ยนไป

สรุปแล้ว ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" เหมือนกับการสร้างบ้านให้แข็งแรงตามหลักวิศวกรรมพื้นฐาน ส่วนฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" โดยเฉพาะซานหยวนปุ๊ป้าย เหมือนกับการติดเครื่องยนต์เจ็ตเข้าไปในบ้าน และจูนเครื่องให้เข้ากับสภาพอากาศและเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วและแรงที่สุด!

เจ้าสัวทั้งหลายเขาก็เลยเลือกแบบ "พลวัต" ไงล่ะ เพราะเขาต้องการความแม่นยำและผลลัพธ์ที่ปังแบบยั่งยืน ไม่ใช่แค่พออยู่ได้! มีอะไรสงสัยอีกไหม ถามมาได้เลยนะเพื่อน! เข้าใจเลยเพื่อน! มังกรเศรษฐีอย่างเราต้องรู้ลึกรู้จริงเรื่องนี้ ฮวงจุ้ยเนี่ย ไม่ได้มีแค่แบบเดียว มันแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" กับ "พลวัต" มาดูกันว่ามันต่างกันยังไง จะได้เลือกใช้ให้ถูก ให้ปัง!


ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" (Static Feng Shui)

ลองนึกภาพบ้านที่สร้างขึ้นมาแล้ว "ไม่เปลี่ยนแปลง" ตามกาลเวลา นั่นแหละคือแนวคิดของฮวงจุ้ยแบบสถิต!

  • เน้น "ชัยภูมิ" หรือ "ทำเลที่ตั้ง" (Form School): ฮวงจุ้ยแบบนี้จะให้ความสำคัญกับรูปร่างลักษณะภายนอกของบ้าน อาคาร หรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมรอบๆ เช่น ภูเขา แม่น้ำ ถนนหนทาง สิ่งก่อสร้างใกล้เคียง
    • ตัวอย่าง: ดูว่าบ้านมีหลังพิง (ภูเขา, อาคารสูง) มีด้านหน้าเปิดกว้าง (ลานกว้าง, แม่น้ำ) มีถนนล้อมรอบที่นำพลังเข้ามาดีหรือไม่ หรือมี "มังกรเขียว" "เสือขาว" "หงส์แดง" "เต่าดำ" ครบถ้วนตามหลักชัยภูมิที่ดี
  • เน้น "ทิศทาง" คงที่: ฮวงจุ้ยแบบนี้จะมองว่าทิศทางของบ้านที่หันไปนั้นดีหรือร้ายตามหลัก "แปดทิศ" (Ba Gua) หรือ "สำนักอัฏฐะเรือน" (Eight Mansions) ซึ่งจะกำหนดทิศที่ดีและไม่ดีสำหรับบ้านแต่ละประเภทตามทิศประธานของบ้าน (ทิศที่หลังบ้านพิงอยู่) และจะใช้หลักนี้ไปตลอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี
    • ตัวอย่าง: ถ้าบ้านหันหน้าไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นทิศธาตุไม้ที่ดีสำหรับบางประเภทบ้าน ทิศนี้ก็จะยังคงเป็นทิศที่ดีเสมอไป
  • การแก้ไข: มักจะเน้นการจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ สีสัน หรือการนำวัตถุมงคลมาวางในจุดที่เชื่อว่าเสริมพลัง หรือแก้ไขจุดที่อ่อนแอ โดยหลักการที่คงที่
  • เหมาะกับ: การเลือกที่ดิน การออกแบบผังบ้านในภาพรวมใหญ่ๆ การจัดวางองค์ประกอบหลักที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง

ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" (Dynamic Feng Shui)

คำว่า "พลวัต" แปลว่า "เคลื่อนไหว" หรือ "เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา" นี่แหละคือหัวใจของฮวงจุ้ยแบบพลวัต!

  • เน้น "กาลเวลา" และ "พลังงานที่หมุนเวียน" (Time Factor): ฮวงจุ้ยแบบพลวัต (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮวงจุ้ยดาวเหิน หรือ Flying Stars Feng Shui) จะให้ความสำคัญกับ "ยุคสมัย" (ซึ่งเปลี่ยนทุก 20 ปี) "ปี" "เดือน" และแม้กระทั่ง "วัน"
    • ตัวอย่าง: อย่างที่รู้กันว่าเราอยู่ใน ยุค 9 (ปี 2567-2586) พลังงานของดาวแต่ละดวงที่ส่งผลต่อแต่ละทิศทางในบ้านก็จะแตกต่างไปจากยุค 8 หรือยุคก่อนๆ จุดที่เคยเป็นจุดเด่นในยุคเก่า อาจจะกลายเป็นจุดด้อยในยุคใหม่ได้ หรือจุดที่เคยมีพลังงานไม่ดี ก็อาจจะกลายเป็นจุดที่ดีได้เมื่อยุคเปลี่ยน
  • ใช้ "ดาวเหิน" คำนวณพลังงาน: ศาสตร์นี้จะใช้แผนภูมิดาวเหิน (Flying Star Chart) ที่ซับซ้อน เพื่อคำนวณว่าดาวพลังงาน (ซึ่งมี 9 ดวง) เคลื่อนที่ไปประจำอยู่ทิศไหนของบ้านในแต่ละช่วงเวลา พลังของดาวแต่ละดวงจะส่งผลต่อโชคลาภ สุขภาพ ความสัมพันธ์ แตกต่างกันไป
  • การแก้ไข: ต้องปรับเปลี่ยนและกระตุ้นพลังงานอยู่เสมอตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ปี หรือเดือน โดยการวางวัตถุที่เหมาะสม (เช่น น้ำ, โลหะ) เพื่อเสริมหรือสลายพลังของดาวที่เข้ามา
  • เหมาะกับ: การปรับปรุงบ้านให้รับพลังงานที่ดีที่สุดในปัจจุบันและอนาคต การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การกระตุ้นโชคลาภด้านต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลา

 

คุณสมบัติ ฮวงจุ้ยแบบ "สถิต" ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต"
หลักการสำคัญ  เน้นชัยภูมิและทิศทางที่ "คงที่" เน้น "กาลเวลา" และ "พลังงานที่เปลี่ยนแปลง" ตลอดเวลา
การมองเวลา ไม่พิจารณาการเปลี่ยนแปลงของเวลา พลังงานเปลี่ยนตาม ยุค (ทุก 20 ปี), ปี, เดือน, วัน
เครื่องมือหลัก แปดทิศ, สำนักอัฏฐะเรือน, ตำแหน่งมังกรเขียว-เสือขาว ดาวเหิน (Flying Stars)
การประยุกต์ การเลือกที่ดิน, การวางผังโครงสร้างหลักของบ้าน การปรับปรุงบ้านในปัจจุบัน, การกระตุ้นโชคลาภรายปี/รายเดือน
ความละเอียด กว้างๆ, ภาพรวมใหญ่ เจาะลึก, แม่นยำในระดับองศาและช่วงเวลา
จุดเด่น ให้รากฐานที่มั่นคง, เสถียร ปรับตัวได้ตามสถานการณ์, ดึงดูดพลังงานที่ปังที่สุดในแต่ละช่วง

 

เจ้าสัวหรือนักธุรกิจที่ต้องการความสำเร็จอย่างยั่งยืน มักจะใช้ฮวงจุ้ยทั้งสองแบบควบคู่กันไป เพราะแบบสถิตคือรากฐานที่แข็งแกร่ง ส่วนแบบพลวัตคือการปรับจูนให้เข้ากับกระแสพลังงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองไม่ว่าจะยุคไหนๆ นั่นเอง!

แบบฟอร์มปรึกษาอาจารย์

ผู้ติดต่อ

วันเดือนปีเกิด *กรณีให้ซินแสตรวจสอบ


บทความฮวงจุ้ยไร้พ่ายแนะนำ

ความแตกต่าง ฮวงจุ้ยแบบ "พลวัต" กับ "สถิต"

เจ้าสัวหรือนักธุรกิจที่ต้องการความสำเร็จอย่างยั่งยืน มักจะใช้ฮวงจุ้ยทั้งสองแบบควบคู่กันไป เพราะแบบสถิตคือรากฐานที่แข็งแกร่ง ส่วนแบบพลวัตคือการปรับจูนให้เข้ากับกระแสพลังงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองไม่ว่าจะยุคไหนๆ นั่นเอง!


ทำไมเจ้าสัวเลือกใช้ฮวงจุ้ย ซานหยวนปุ๊ป้าย

เรื่องนี้มันมีเหตุผลลึกซึ้งมากๆ ว่าทำไมเจ้าสัว หรือนักธุรกิจระดับมังกรเศรษฐีทั้งหลายถึงเลือกใช้ฮวงจุ้ยแบบซานหยวนปุ๊ป้าย ไม่ใช่แค่ฮวงจุ้ยทั่วไปที่ดูแค่ของตกแต่งหรือทิศทางแบบผิวเผินนะ


ซานหยวนปุ๊ป้ายคืออะไร?


ฮวงจุ้ยห้องนอน: แค่ปรับนิด ชีวิตพลิก! ปลดล็อกพิกัดโชคลาภ ดึงดูดเงินทอง & ความรักพุ่งแรง!

คุณเคยไหม? นอนเท่าไหร่ก็ไม่สดชื่น ตื่นมาแล้วรู้สึกเพลีย เงินทองติดขัด ความรักไม่ราบรื่น ทะเลาะกับคนในบ้านบ่อยๆ?


ปลุกพลังโชคดีของคุณ...ถาวร!

คุณเคยรู้สึกไหมครับว่าบางทีชีวิตก็เหมือนมีอะไรติดขัด โชคไม่เข้าข้าง หรือรู้สึกว่าความโชคดีนั้นช่างมาแล้วก็ไป? ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน บางครั้งโชคชะตาก็ดูเหมือนจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย


คุณแบมแบม

ขออนุญาตรีวิวให้อาจารย์นะคะ พอดีแบมแบมได้ทำแซกีกับอาจารย์และให้อาจารย์วางฮวงจุ้ยแบบบ้าน ตำแหน่งรับโชคเปิดโชคให้ และตำแหน่งทุกอย่างค่ะ ดีที่เจออาจารย์ก่อนอาจารย์เลยมาดูองศาฮวงจุ้ยให้ ได้แก้แบบบ้านพอดีค่ะ หลังจากแก้เสร็จตามที่อาจารย์แนะนำและวางจุดให้ ตั้งแต่เริ่มสร้างลงเสามาตามฤกษ์มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาค่ะ งานเข้าจนไม่มีเวลาเลยค่ะ เงินเข้ามาง่ายกว่าเดิม น้องๆหลานๆบอกง่ายขึ้นค่ะ ถือว่าแบมโชคดีมากค่ะที่เจออาจารย์ได้เวลาพอดีไม่งั้นคงได้ทุบมากกว่ารั้วกำแพงบ้านแน่ๆค่ะ เพราะคงสร้างตามแบบที่ออกแบบมาและคงไม่ดีแน่ๆค่ะ ไม่ดีไม่ออกมาคุยเลยนะคะ ปกติชอบเก็บตัวค่ะ แต่ดีจริงเลยอยากบอกเล่าเรื่องราวดีๆตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านเลยค่ะ

26 ก.ย. 2565

Copyrights © 2020 . All Rights Reserved.